ยอดทีมแข่งไทยแท้ 100% เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เดินทางกลับบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อย
หลังสร้างผลงานกระหึ่มสนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในศึก ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 โดย มุกข์ มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่ง ผนึกกำลัง ฟิล์ม ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ผงาดคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์มาครองอย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 62 มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ พร้อมทีมงาน เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมี พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รวมถึง ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร และคุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานสื่อสารการตลาด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มุกข์ลดา เผยว่า ดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มาครองได้ เพราะพวกเราทุกคนทั้งนักแข่งและทีมช่างคนไทย 100 เปอร์เซนต์ ได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อลงแข่งในรายการนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการแข่งขันที่ยากมากนอกจากจะต้องขี่กันยาวถึง 4 ชั่วโมงแล้ว ยังเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างย่ำแย่ ฝนตกหนักตลอดการแข่งขัน และลมค่อนข้างแรงมาก แต่พวกเราทุกคนก็ฝ่าฟันกันจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ รู้สึกภูมิใจมากๆ ต้องขอขอบคุณชาวไทยที่ส่งใจแรงเชียร์มาตลอดและตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ ดร.อารักษ์ พรประภา กล่าวว่า เป็นรายการที่ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศ เพราะทีมมาแข่งวันแรกฟ้าค่อนข้างใส และตอนซ้อมรอบแรกก็ซ้อมในสภาพสนามที่ค่อนข้างแห้ง แต่พอจะทำการแข่งขันมีฝนตกลงมาทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการขับขี่ และได้บอกทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ให้เน้นสมาธิอย่างเดียว ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น ต้องยกเครดิตให้กับทีม เพราะจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ แต่ทั้ง มุกข์ และ ฟิลม์ ก็ยังสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องขอขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยที่ส่งมาทางการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุกของการแข่งขัน ซึ่งน้องทั้งสองก็ได้อ่านตลอดระหว่างช่วงที่พัก ทำให้รู้สึกฮึกเหิมและต้องการทำผลงานที่ดีที่สุดมาฝากคนไทยให้ได้ ขณะที่ ศุภฤกษ์ จันทร์ศรี หัวหน้าช่างเทคนิคทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถร่วมกันพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้ โดยสนามนี้ความยากอยู่ที่สภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างหนัก ทำให้เราต้องปรับแต่งรถและวางแผนต่างๆ เกือบใหม่ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามต้องชม มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ที่ขี่ได้เหมือนตอนซ้อมและตามแผนที่วางเอาไว้ สำหรับ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 และสามารถคว้าแชมป์ในรายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มาครองท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่องที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเอาชนะคู่แข่งด้วยระยะห่างถึง 2 รอบสนาม และนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ขณะที่ มุกข์ลดา เป็นนักบิดหญิงคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้
เพิ่มเติม >> https://sccocer123.blogspot.com/2019/08/blog-post_31.html
หลังสร้างผลงานกระหึ่มสนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในศึก ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 โดย มุกข์ มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่ง ผนึกกำลัง ฟิล์ม ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ผงาดคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์มาครองอย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 62 มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ พร้อมทีมงาน เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมี พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รวมถึง ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร และคุณจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานสื่อสารการตลาด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มุกข์ลดา เผยว่า ดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มาครองได้ เพราะพวกเราทุกคนทั้งนักแข่งและทีมช่างคนไทย 100 เปอร์เซนต์ ได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อลงแข่งในรายการนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการแข่งขันที่ยากมากนอกจากจะต้องขี่กันยาวถึง 4 ชั่วโมงแล้ว ยังเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างย่ำแย่ ฝนตกหนักตลอดการแข่งขัน และลมค่อนข้างแรงมาก แต่พวกเราทุกคนก็ฝ่าฟันกันจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ รู้สึกภูมิใจมากๆ ต้องขอขอบคุณชาวไทยที่ส่งใจแรงเชียร์มาตลอดและตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ ดร.อารักษ์ พรประภา กล่าวว่า เป็นรายการที่ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศ เพราะทีมมาแข่งวันแรกฟ้าค่อนข้างใส และตอนซ้อมรอบแรกก็ซ้อมในสภาพสนามที่ค่อนข้างแห้ง แต่พอจะทำการแข่งขันมีฝนตกลงมาทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการขับขี่ และได้บอกทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ให้เน้นสมาธิอย่างเดียว ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น ต้องยกเครดิตให้กับทีม เพราะจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ แต่ทั้ง มุกข์ และ ฟิลม์ ก็ยังสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องขอขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องชาวไทยที่ส่งมาทางการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุกของการแข่งขัน ซึ่งน้องทั้งสองก็ได้อ่านตลอดระหว่างช่วงที่พัก ทำให้รู้สึกฮึกเหิมและต้องการทำผลงานที่ดีที่สุดมาฝากคนไทยให้ได้ ขณะที่ ศุภฤกษ์ จันทร์ศรี หัวหน้าช่างเทคนิคทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถร่วมกันพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้ โดยสนามนี้ความยากอยู่ที่สภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างหนัก ทำให้เราต้องปรับแต่งรถและวางแผนต่างๆ เกือบใหม่ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามต้องชม มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ที่ขี่ได้เหมือนตอนซ้อมและตามแผนที่วางเอาไว้ สำหรับ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 และสามารถคว้าแชมป์ในรายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มาครองท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่องที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเอาชนะคู่แข่งด้วยระยะห่างถึง 2 รอบสนาม และนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ขณะที่ มุกข์ลดา เป็นนักบิดหญิงคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้
เพิ่มเติม >> https://sccocer123.blogspot.com/2019/08/blog-post_31.html
Comments
Post a Comment